วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Class11: Strategic Information System Planning

Web Mining ถือเป็น Text Mining รูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นบน Website ช่วยเพิ่มความสามารถให้ Web เช่น แนะนำ Link/ New Product เกิดจากการเก็บข้อมูลใน Server ให้เกิดประโยชน์ ex. “Favorites” “History” โดยมีการเก็บ Log เพื่อบอกว่าใช้ Website บ่อยแค่ไหนและระยะเวลาที่ใช้ในแต่ละครั้ง แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
·        Web Content Mining
·        Web Structure Mining การที่ลูกค้ามักเข้าเว็บผ่านลิงค์ Google ทำให้บริษัททราบว่าลูกค้าจำ URL ของบริษัทไม่ได้ หรืออีกนัยหนึ่งคือไม่เกิด Brand Recognition
·        Web Usage Mining การเก็บข้อมูลจำนวนลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บและจับจ่ายใช้สอยจริง ทำให้รู้พฤติกรรมการใช้เว็บของลูกค้าและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
Click Stream >> บอกสิ่งที่ผู้ท่องเว็บให้ความสนใจ เช่น พฤติกรรมชอบเช็คเว็บข่าวหรือเช็คอีเมลล์ก่อนเข้าเว็บไซต์อื่น
ปัจจุบัน Amazon ไม่เพียงขายแต่หนังสือแต่มี Product Line ที่ค่อนข้างหลากหลาย Web Page จึงค่อนข้าง Customized ตั้งแต่มี Personalized Message ทักทายสมาชิกเว็บเป็นชื่อของแต่ละคน Store for the customer และ Unique Recommendation ที่รวบรวมสินค้าที่น่าจะเป็นที่ต้องการของเรา “Gold Box” Offers โปรโมชั่นพิเศษ และ Section Listing based upon previous purchases
Spot Reward Card เป็นตัวอย่างของ Data Mining ที่ดีในประเทศไทย (ไม่ใช่ Web Mining เนื่องจากมิได้ Appear บน Web) โดยมีบัตรลดราคาสินค้าที่ส่งมาให้สมาชิกแต่ละคนถึงบ้าน โดย Shopping List มักเสนอยี่ห้อสินค้าที่ใกล้เคียงกับที่ใช้เดิมหรือเสนอขายสินค้าปริมาณมาก เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น หรือลองเปลี่ยนไปใช้สินค้าอื่นบ้าง ซึ่งจะเปลี่ยน Behavior ของผู้บริโภคได้  

Strategic Information System Planning การดำเนินการเพื่อไปสู่เป้าหมายโดยใช้ระบบสารสนเทศเป็นเครื่องมือผลักดันกลยุทธ์ โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่กระบวนการ
ระบบสารสนเทศที่ดีคือต้องสามารถหาสิ่งที่ต้องการได้ เมื่อต้องการในทันที ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผน ผ่านความร่วมมือของทุกคนในองค์กร การปฏิบัติจึงจะสัมฤทธิ์ผล
User Friendly >> MS Office, iPhone ทำให้เกิดความนิยมของผู้บริโภคในวงกว้าง >> คนเปลี่ยนเครื่อง/ Application มากขึ้น >> Hardware ราคาถูกลงแต่ Software ราคาแพงขึ้น
Infrastructure ระบบพื้นฐานหรือส่วนของ IT ที่เกี่ยวข้องกับทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น Network, Hardware, Software, Application โดยต้องใช้งานร่วมกัน   
การวางแผน IS เชิงกลยุทธ์ในระดับ Small มักจะไม่ค่อยเห็นผล จะเห็นชัดตอนขยายจาก Medium ไป Large เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่องค์กรต้องการบุคลากรที่ดีขึ้น เพื่อผลักดันการเติบโตได้อย่างทันเวลา

Four-Stage Planning Model
1.       Strategic Planning กำหนดกลยุทธ์ โดยการหาความสัมพันธ์ระหว่างแผนกลยุทธ์ขององค์กรกับ IT
-          Set IS Mission
-          Access Environment ประเมินสิ่งที่มีอยู่ (มีอะไร อย่างไร เมื่อไหร่) ว่ามีปัญหาหรือไม่ สามารถตอบสนองความต้องการขององค์กรได้หรือไม่ มีค่าพอที่จะ carry ต่อมั้ย หรือต้องทำการปรับแก้ เช่น ประเมินความสามารถด้าน IS, โอกาสใหม่ๆ, สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ, เทคโนโลยีใหม่ๆ, Application Portfolio, ภาพพจน์ IS ขององค์กร รวมถึงการประเมินทักษะบุคลากรด้าน IS
-          Access Organizational Objectives Strategies โดยทบทวนแผนกลยุทธ์ขององค์กรว่าเหมาะสมกับสภาพปัจจุบันเพียงใด ใครเป็นคนทำ รวมถึงการกำหนดกลยุทธ์สารสนเทศที่สนับสนุนกลยุทธ์องค์กร
-          Set IS Policies, Objectives, Strategies พิจารณาโครงสร้างองค์กรว่า IS แทรกอยู่ในส่วนใด 5ถ้าเป็นเพียงหน่วยงานย่อยของแผนกอื่น หมายถึงระดับความสำคัญที่น้อยลง
2.       Organizational Information Requirements Analysis กำหนดระบบสารสนเทศที่ต้องใช้ในการดำเนินกลยุทธ์
-          Access Organization’s Information Requirements วิเคราะห์ความต้องการในสารสนเทศขององค์กรในปัจจุบัน ในอนาคต และทำการจัดประเภทหรือแบ่งกลุ่มข้อมูลที่ต้องการ อาจทำโดยการสังเกตการณ์ การสัมภาษณ์ และการ Review ร่วมกันหลายวิธี
-          Assemble Master Development Plan กำหนดระบบสารสนเทศทั้งหมดที่ต้องการ และสิ่งที่ระบบช่วยสร้าง จัดลำดับความสำคัญของระบบดังกล่าว และวางแผนช่วงเวลาในการแสวงหาและพัฒนาระบบ ซึ่งขึ้นกับระยะเวลาในแผนกลยุทธ์ขององค์กร (ส่วนใหญ่ 5 ปี)  และความพร้อมของเงินทุน บุคลากรและเทคโนโลยี
3.       Resource Allocation Planning ดูแลการจัดสรรทรัพยากร
-          Develop Resource Requirements Plan ประเมินทรัพยากรที่ต้องใช้ในการสร้าง IS กำหนดให้ชัดเจนว่าเป็น Infrastructure หรือ Application ได้แก่ Hardware Software บุคลากร Facilities เช่น ห้องหรือโต๊ะที่ใช้ในการตั้ง Server การติดตั้งสาย Network และกำลังไฟ และต้องตีราคาทรัพยากรทั้งหมดเป็นตัวเงิน (แม้แต่การอบรมพนักงาน) แล้วหา Cost/ Application
4.       Project Planning พิจารณาความคุ้มค่า
-          Evaluate Project and Develop Project Plans ประเมินความคุ้มค่า ระบุหน้าที่งานที่ต้องทำ ประมาณต้นทุน กำหนดเวลาและวันเสร็จสิ้นแผนงาน

The Business Systems Planning Model (BSP) การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วทั้งองค์กร เพื่อให้เห็นถึงโครงสร้างการกำเนิดของข้อมูลผ่าน Business Processes (Across Functional) และ Data Classes บอกว่าแต่ละ Process ใช้และสร้าง Data อะไร ซึ่งช่วยให้ข้อมูลดำรงอยู่แม้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรก็ตาม มีขั้นตอนโดยคร่าวดังนี้
-          Gaining Commitment ของพนักงานทั่วทั้งองค์กร
-          Defining Business Process
-          Defining Data Classes กำหนดประเภทข้อมูล ไม่ใช่ item
-          Analyzing Current Systems Support สิ่งที่มีวันนี้
-          Defining Findings and Conclusions สิ่งที่ต้องทำเพิ่ม
-          Defining Info Architecture (หลายระบบ)
-          Determining Architecture Priorities จัดลำดับความสำคัญของระบบ
-          Developing Action Plan

Critical Success Factors (CSF) สิ่งสำคัญที่ช่วยให้องค์กรยังคงอยู่และประสบความสำเร็จ เริ่มขึ้นจากการศึกษาเรื่องการกำหนดความต้องการสารสนเทศของผู้บริหารระดับสูง โดย MIT ซึ่งค่อนข้างมีความเฉพาะตามแต่ละอุตสาหกรรม มีขั้นตอนโดยคร่าวดังนี้
-          Aggregate and Analyze Individual CSFs โดยการสัมภาษณ์ อาจมีจุดอ่อนจากการได้ความเห็นส่วนบุคคลที่ไม่ใช่ความเห็นของตำแหน่งผู้บริหารที่แท้จริง
-          Develop Agreement on Company CSFs วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลที่ได้
-          Define Company CSFs
-          Define DSS and Database
-          Develop IS Priorities โดยระบบ IS ที่สำคัญต้องตอบ CSF
ภัคนิจ แดงสุภา 5202112602

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น