วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Class6: E-Business

Dell เริ่มต้นจากการขาย computer ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (customization) แต่ปัจจุบัน margin ของ Dell ลดลง เนื่องจากธุรกิจคอมพิวเตอร์มีการแข่งขันสูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าลดลง
EBaY เป็น website ประมูลสินค้า ทาง Internet
Amazon เริ่มต้นจากการขายหนังสือ แล้วขยาย Line ไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆมากมาย ใช้ concept Long-tail คาดว่ามีผู้บริโภคจำนวนมากที่ต้องการผลิตภัณฑ์แปลกๆ ที่ไม่ใช่ mass product เป็นการ meet demand กับ supply ผ่านทาง internet
Click-&-mortar vs Brick-&-mortar เป็นการขายสินค้าทั้ง online และ offline เป็นการขายธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม เป็นต้น
Affiliate Marketing เป็นการเขียน review product รวมถึงการ link website ของ affiliate บนหน้า web ของเรา โดยเราจะได้เปอร์เซ็นต์จากสินค้าที่ขายได้
Priceline.com เป็น reverse auction ที่ผู้ใช้ website สามารถกำหนดราคาตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่ต้องการได้
Flickr.com เป็น website ที่ใช้ upload รูปภาพฟรี ด้วย concept “freemium” และยังเป็น long-tail เนื่องจากผู้ใช้ที่ต้องการ application ที่ซับซ้อน เช่น นักเล่นกล้อง จะต้องจ่ายเงินเพิ่มกว่าผู้ใช้ทั่วไป
Bartering online ex. http://bangkok.craigslist.co.th/ เป็น website ที่สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆของบุคคลหลายกลุ่มที่มีความสนใจตรงกัน
Online Advertisers ได้แก่ facebook collegeRecruiting FinAid
Socially Oriented Sites ได้แก่ CarnivalConnection Blogger
Application Programming Interface เป็นการ link โปรแกรมของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกัน เช่น Apple iPhone, Android application ex. Foursquare, Paypal เป็นสื่อกลางในการจ่ายชำระราคาสินค้า จะมีความปลอดภัยสูงกว่า
ข้อจำกัดของ e-commerce คือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่รวดเร็ว เช่น จาก IE6 เป็น IE8, server ไม่รองรับ
Swap.com, Half.com แลกเปลี่ยนสินค้าโดยไม่ต้องประมูล
Sam’s club ขาย wholesale ของ WalMart
ข้อดีของการมีร้านในห้างและมีระบบ online ด้วยคือ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม ไม่ต้แงสต็อกสินค้าไว้เยอะ ถ้าสินค้ามีปัญหาสามารถนำไปเคลมหน้าร้านได้ ข้อเสียคือต้องมี management แยกกัน Business model ต่างกัน จึงทำได้ยาก
Electronic Mall: Second Life, Virtual World ห้างเสมือนจริง
Real Estate Online: Virtual tour
E-government: Government provide service ให้กับประชาชน ได้แก่ link ข้อมูลทำ passport กับบัตรประชาชน, E-Revenue เสียภาษีทาง internet, E-auction ประมูลทะเบียนรถ
การจ่ายเงินทาง Electronic ex. EDI (Electronic Data Interchange), E-card (both credit and debit)
RFID: ที่ญี่ปุ่นมี RFID ในมือถือเป็นเครดิต ซึ่งสามารถใช้จ่ายซื้อของได้ทั่วไป
จริยธรรมและกฎหมายทาง E-business ต้องดูว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ แต่ปัจจุบันมีการ cover ค่าเสียหายจากบริษัทผู้ออกบัตรเครดิตแล้วเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค, ควรดูว่ามีผู้ซื้อจำนวนมากหรือไม่ การเขียน review เป็นอย่างไร ex. http://consumerist.com/ เป็น website ที่แฉธุรกิจที่ขาดจริยธรรมต่อผู้บริโภค
Cloud Computing: การเชื่อมต่อระหว่าง network 2 จุด ซึ่งเราไม่เห็นกระบวนการดังกล่าว ในลักษณะของ Hard Disk online ex. Google, IBM, Amazon ลักษณะของ Cloud Computing ได้แก่ เป็น on-demand self service ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องติดต่อผู้ให้บริการ, broad network access เชื่อมโยงเข้าถึงระบบได้จากทุกที่, source pooling ใช้งานร่วมกันโดยผู้ใช้งานหลายกลุ่ม, rapid elasticity ปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วอัตโนมัติ และ measured service สามารถวัดปริมาณการใช้งานได้ แระกอบด้วยการให้บริการ 3 ประเภทได้แก่ SaaS (Software as a Service), PaaS (Platform as a Service) และ IaaS (Infrastructure as a Service)
ข้อดี คือเราไม่ต้องลงทุนเอง เนื่องจากบางครั้งเทคโนโลยีก้าวหน้ารวดเร็วการลงทุนใน IT อาจไม่คุ้มค่า ไปใช้ service จากภายนอกจะดีกว่า
ข้อเสีย คือ Privacy เนื่องจากอาจโดน hack ข้อมูลได้, ความน่าเชื่อถือ เนื่องจากเรา rely การทำงานกับคนอื่น หากระบบล่มก็ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้
Health Informatics คือการนำข้อมูลที่เกี่ยวกับทางด้านสุขภาพมาผนวกกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อนำมาใช้ในการจัดการทรัพยากร เครื่องใช้ต่างๆ และนำมาพัฒนาปรับปรุงวิธีการได้มา การเก็บรักษาและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เกี่ยวสุขภาพ โดยระบบสารสนเทศสาธารณสุขจำแนกตามภารกิจแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ ระบบสารสนเทศสาธารณสุขเพื่อการบริหาร, การบริการและงานวิชาการ และสารสนเทศสุขภาพแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ ข้อมูลด้านประชากร เศรษฐกิจและสังคม, สถานสุขภาพ, ทรัพยากรสาธารณสุข, กิจกรรมสาธารณสุข และการบริหารจัดการ
ประโยชน์ ช่วยให้การบริการด้านสาธารณสุขเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความผิดพลาด เพิ่มคุณภาพการรักษาพยาบาล และสามารถวางแผนการใช้ทรัพยากรไม่ว่าจะเป็นทางด้านบุคคลหรืออุปกรณ์ได้เพียงพอต่อความต้องการ
Web  2.0 จะต้องมีคุณลักษณะหลักๆ ดังนี้
1. Network as platform คือจะต้องให้บริการหรือสามารถใช้งานผ่านทาง web browser ได้ 
2. ผู้ใช้งานที่เป็นเจ้าของข้อมูลบน website นั้น สามารถดำเนินการใดๆ ก็ได้กับข้อมูลนั้น  
3. ให้ความสำคัญกับผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดยที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์จะมีส่วนร่วมต่อเว็บไซต์มากขึ้น เช่น ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถสร้าง content ของเว็บไซต์ขึ้นมาได้เองหรือสามารถ tag content ของเว็บไซต์ (คล้ายๆการกำหนด keyword ที่เกี่ยวข้องกับ content โดยผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นผู้กำหนดขึ้น) ตัวอย่างเช่น Digg, Flickr, Youtube และ Wiki 
4. Web 2.0 application จะมีคุณสมบัติที่เรียกว่า RIA (Rich Internet Application) มี user interface ที่ดียิ่งขึ้น เช่น คุณสมบัติ drag & drop โดยเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในการสร้าง RIA เช่น AJAX, Flash
5. มีการพัฒนาและการโต้ตอบระหว่างผู้ให้บริการและผู้ใช้งาน
6. มีความรวดเร็วและความง่ายดายของการส่งข้อมูล ex. RSS(Really Simple Syndication) update ข้อมูลข่าวสารในทันที  
7. มีคุณสมบัติที่เรียกว่า mash-up คือการนำฟังก์ชั่นการใช้งานจากเว็บหลายๆที่มาผนวกเข้าด้วยกัน
ภัคนิจ แดงสุภา 5202112602

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น